Saturday, November 07, 2009

ตึกเขียวที่สูงที่สุด

Taipei 101 จะกลายมาเป็นตึกเขียวที่สูงที่สุดในโลก

แม้ว่าจะเสียเข็มขัดแชมป์ อาคารสูงที่สุดในโลกให้กับอาคาร Burj Dubai อย่างไม่เป็นทางการไปแล้ว

อาคาร Taipei 101 ก็ไม่ยอมแพ้ โดยประกาศตัวว่าจะเป็นอาคารเขียวที่สูงที่สุดในโลกให้ได้

โดยคุณ Harace Lin ประธานบริษัท Taipei Financial Center Corporation (TFCC) เจ้าของอาคาร

ได้ให้ข่าวเมื่อวานนี้ (2009-11-03) ว่า ทางบริษัทมีแผนจะเข้าโปรแกรมของ LEED (Leadership in Energy and Environment Design)

โดยจะลงทุนกว่า 1.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับงานปรับปรุงหลายร้อยรายการ เพื่อให้เข้าเกณฑ์ต่างๆ ภายใน 18 เดือน ของ LEED

หลังจาการแปลงร่างอาคาร Taipei 101 ประมาณการว่าจะลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน กว่า 0.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี

คุณ Lin ยังกล่าวว่า

“เราอาคารอยากจะเป็นตัวอย่างระดับนานาชาติ ของการปกป้องสิ่งแวดล้อม และความรับผิดชอบต่อสังคม

ทีมบริหารต้องการสร้างสัญลักษณ์(Icon) ให้กับธุรกิจอาคารเขียวในไต้หวัน และในระดับโลก

และในฐานะอาคารที่สูงที่สุดในโลก อาคารนี้จะกลายเป็นเครื่องมือที่จะปลุกสำนึกการรักษาสิ่งแวดล้อมกับผู้คนทั่วไป

และยังจะเป็นผู้บุกเบิกการทำอาคารเขียวหลังการก่อสร้าง (Existing Building หรือ LEED-EB) ระดับสากล”

ข่าวจาก http://www.etaiwannews.com/etn/news_content.php?id=1097555〈=eng_news&cate_img=logo_taiwan&cate_rss=TAIWAN_eng

ได้รับลิงค์โดย IFMA-International Facility Management Association

-----------------

อ่านข่าวนี้ ก็รับรู้กันโดยทั่วไปว่า มีการปนเปื้อนโฆษณามากมายนะครับ

ซึ่ง LEED เขาก็เก่งด้านการตลาดทำให้คนติดงอมแงมกับกระแสนี้กันทั้งโลกได้

แต่อย่างไรก็ต้องยอมรับว่า เขาก็ทำให้กระแสอาคารเขียวจับต้องได้กว่ามาตรฐานอื่น

มองมาที่ประเทศไทยเรา

โครงการระดับชาติหลายโครงการเริ่มได้กลิ่นว่าน่าจะได้รับการแจกมาตรฐาน อีทท ในไม่ช้านี้

มาตรฐาน อีทท หรือ EEAT (Eat Every Atom of Thailand – มาตรฐานกินมันทุกอณู ตั้งแต่ระดับนโยบายยันกรรมกร)

:(

ไปดูไบ ไปปีหน้าดีกว่า

ข่าวจากนครดูไบ สหรัฐอาหรับอิมิเรต ว่า คงจะต้องรอกันถึงต้นปีหน้านะครับ สำหรับตึกที่สูงที่สุดในโลกแห่งใหม่

โครงการ Burj Dubai ได้กำหนดวันเปิดใหม่เป็นวันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๓ ซึ่งล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้เดิมประมาณ ๑ เดือน โดยวันเปิดจะตรงกับวันคล้ายวัน ชีคมูฮัมเมด บิน ราชิล อัล มาคทูม รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นปีที่สี่

โดยเมื่อไม่ถึงเดือนที่ผ่านมา คุณมูฮัมมัด อัลแอบบา ประธานบริษัท Emaar Properties บริษัทผู้พัฒนาโครงการที่ได้รับการสนับสนุนโดยรัฐ บอกกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า เขาหวังว่าโครงการ Burj Dubai จะสามารถเปิดให้ทันวันชาติของสหรัฐอารับอิมิเรตคือวันที่ ๒ ธันวาคม นี้โดยทางบริษัทได้ทำการเร่งการก่อสร้างอย่างเต็มที่

โครงการ Burj Dubai (ความหมายว่า Dubai Tower ในภาษาอาราบิค) เริ่มโครงการเมื่อห้าก่อน และก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง และรวดเร็ว ในเดือนมกราคม ๒๕๕๐ แรงงานกว่า ๓๐๐๐ คน (ส่วนมากมาจากประเทศอินเดีย) ได้สร้างอาคารเสร็จกว่าหนึ่งร้อยชั้น นั่นหมายความว่า พวกเขาสามารถสร้างชั้นใหม่ได้ทุกๆ สามวัน

อาคารนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ใจกลางของ Dubai ที่มีพื้นที่กว่า ๑๒๖๐ ไร่ ซึ่งจะกลายเป็นพื้นที่อยู่อาศัย และเจตเศรษฐกิจ ตัวอาคารยังล้อมรอบไปด้วยอาคารสูงเสียดฟ้าใหม่จำนวนมาก และรวมไปถึงศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่สุดในตะวันออกกลาง

ตัวได้สร้างถึงความสูง ๕๑๒ เมตรในฤดูร้อนปี ๒๕๕๐ ซึ่งมากกว่าอาคาร Taipei 101 ซึ่งครองตำแหน่งอาคารสูงที่สุดในโลก ณ ปัจจุบันที่กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน แต่โครงการนี้ยังจะสูงกว่า ๘๐๐ เมตร (ยังไม่ยืนยันความสูงเมื่อสร้างเสร็จ) แหล่งข่าวจากบริษัทสัญชาติเยอรมัน Emporis ผู้รับผิดชอบก่อสร้างโครงการนี้ ได้ให้กล่าวว่า อาคารนี้จะมีความสูงที่ ๘๑๘ เมตร

โดยการติดตั้งผนังอลูมิเนียมและกระจกเพิ่งเสร็จสิ้นเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง (ตุลาคม ๒๕๕๒) หากนับพื้นที่ของผนังกระจกส่วน façade อาคารนั้น ก็มีมากกว่า ๑ ล้านตารางฟุต หรือประมาณ ๙๒,๙๐๓ ตารางเมตร เทียบเท่าพื้นที่ ๑๔ สนามฟุตบอลเลยทีเดียว

ซึ่งอาคารนี้ นับเป็นอาคารที่มีพื้นที่ใช้งานที่สูงที่สุดในโลกเช่นกัน
ได้ทำ FM โครงการนี้คงสนุกไม่น้อยนะครับ

แปลข่าวจาก http://www.chicagotribune.com/business/sns-ap-ml-dubai-worlds-tallest-tower,0,3419871.story?obref=obnetwork
Link by IFMA