Thursday, July 02, 2009

FM กับ EGAT

ได้มีโอกาสไปบรรยายเรื่อง Facility Management ที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (EGAT) มาครับ

ได้รับเชิญโดยฝ่ายบริการ ก่อนบรรยาย ได้ได้ทราบข้อมูลว่า ฝ่ายบริการ เป็นฝ่ายสนับสนุนทางด้านดูแลพื้นที่อาคาร ดูแลจัดการเฟอร์นิเจอร์ บริการที่เกี่ยวเนื่อง เช่น การจัดจ้างคนทำความสะอาด การจัดจ้างคนสวน ฯลฯ การจัดรถขนส่ง ทั้งหมดในพื้นที่ของ กฟผ. ที่บางกรวย

ทั้งหมดมีคนทำงานกว่าหมื่นคน เป็นเมืองขนาดย่อมๆ ได้เลยทีเดียว

ดูภายนอก สิ่งแวดล้อมภายในพื้นที่ของ กฟผ. สะอาด ดูดี น่าอยู่มากแห่งหนึ่ง

เมื่อได้พูดคุยกับทางผู้ปฏิบัติในฝ่ายบริการ น่าดีใจมากๆ ที่องค์กรขนาดใหญ่อย่าง EGAT ได้มีการใช้แนวคิดด้าน FM มาอยู่ก่อนแล้วนานพอสมควร

ที่ผมดีใจ ก็เพราะว่า องค์กรระดับใหญ่ขนาดนี้ เมื่อการใช้แนวคิด FM จะมีผลกระทบต่อสังคม และประเทศอย่างมาก ตั้งแต่การประหยัดงบประมาณ (คือเงินภาษีของพวกเรา) การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

ผมได้คุยกับสถาปนิกของ EGAT คุณวรพจน์ คุณนัฎ คุณวีโรภาส เป็นสถาปนิกสามรุ่นสามวัย พอพูดคุยด้วยแล้ว เขามีแนวคิดทางด้านนี้อยู่มากพอสมควร เช่น

- การทำ Material Inventory โดยวัสดุประกอบอาคารทั้งหมด ได้มีการทดสอบ หาความคุ้มค่าด้านต้นทุน ไม่ใช่แค่ซื้อของถูก แต่ต้องเปลี่ยนกันบ่อยๆ เหมือนหน่วยงานราชการทั่วๆ ไป

- การทำ Space Staindard ว่า พนักงานระดับไหน มีมาตรฐานการครอบครองพื้นที่ และครุภัณฑ์อะไร

- การทำ Space Inventory ว่า ฝ่ายใด แผนกใด ครอบครองพื้นที่อยู่ที่ได้ มีระบบการ Charge Back เพื่อให้ทราบต้นทุนที่แท้จริงในแต่ละเรื่อง

- ฯลฯ

ซึ่งเห็นได้ว่า ทาง EGAT ได้ใช้แนวคิด FM มาจับกับงานที่ทำมานานแล้ว เพียงแต่เขายังไม่แน่ใจว่า สิ่งที่เขาทำนั้น เป็น FM หรือไม่

กุญแจของผู้ทำงานด้านนี้ คือ หากเมื่อไร เขาเปลี่ยนการทำงานเชิงรับ ที่ทำงานประจำวัน รับปัญหา แก้ปัญหาไปวันๆ เปลี่ยนไปเป็นการทำงานเชิงรุก ที่ป้องกันปัญหา เริ่มมีบทบาทในการวางนโยบาย และควบคุมทิศทางการบริหารมากขึ้น

ส่วนวิธีจะเปลี่ยนการทำงานเชิงรับ มาเป็นเชิงรุก ผมวิเคราะห์ว่า จำเป็นต้องอาศัย สามสิ่งคือ

1.Goal and Strategies
เป้าหมาย คือสิ่งที่เราอยากจะเป็น หรือเราฝันอยากจะเป็น แต่ก่อนหน้านั้น อาจต้องรู้ก่อนว่าเราอยู่ที่ไหน การทำ SWOT การวิเคราะห์หาจุดอ่อน จุดแข็ง โอกาส อุปสรรค์ เพื่อหาวิธีนำจุดแข็ง โอกาส มาช่วยแก้ไขจุดอ่อน และก้าวข้ามผ่านอุปสรรค์ให้ได้

2.Participation
ความร่วมมือของคนทำงานเป็นพลังหลักที่ทำให้เราสามารถไปถึงจุดหมายได้ ความร่วมมือจากหลายๆ ระดับ เช่น ระดับบริหารเห็นด้วยไหม? หัวหน้าเอาด้วยไหม? ระดับปฏิบัติมีความศรัทธา มีความเชื่อ มีความหวังกับเราด้วยไหม? อาจต้องจัดตั้งรางวัล มีการลงโทษสำหรับคนไม่ทำดีด้วย

3.Information Management
เราจะจัดการอะไรไม่ได้เลย หากเราไม่รู้ว่าเรามีอะไรให้จัดการบ้าง ทรัพยากรเราอยู่ตรงไหนบ้าง และอะไรเป็นสิ่งเร่งด่วนจะต้องทำ จะต้องเริ่มตั้งการการเลือกเก็บข้อมูล การจัดการข้อมูล และสุดท้าย การทำ Knowledge Management หรือ การทำ R&D ซึ่งผมเรียกว่า มันเป็น “เรื่องของ “คนว่างงาน” ที่จะช่วยให้มีคนว่างงานอีกเยอะ”

สามสิ่งนี้หากเพียงได้เริ่มทำ สิ่งที่เราจะเห็นคือ การใช้แนวคิดทางด้าน FM ได้อย่างเต็มที่ และผลของมันคือการใช้สอยทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้จ่ายงบประมาณอย่างตรงประเด็นขึ้นมาก ซึ่งผลดีก็ตกอยู่กับพวกเรา หรือเจ้าขององค์กรนั่นเอง